วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

ก่อนเคยพะนอ - Koh Mr.Saxman

วันนี้ขอเขียน Blog ที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับ เรื่อง Internet Marketing หรือ เทคโนโลยีบ้างละกันครับ เพราะถ้าแยกไปเขียนเรื่องอื่นๆ ไว้ที่อื่น เดี๋ยวมันจะหลายที่เกินไป เลยเอามารวมๆ กันไว้ที่นี่แล่ะ ดีที่สุดละ ตามหัวเรื่องก็คงพอเดาได้ว่า เนื้อหาวันนี้ก็คงเป็นเรื่องดนตรี และเสียงเพลง ซึ่งมันเกิดจาก คืนก่อนที่เบื่อๆ เซ็งๆ อยากไปหาที่นั่งฟังเพลงสนุกๆ ก็เลยนึกถึงร้าน Saxophone (อนุสาวรีย์ฯ) ขึ้นมา เลยลองค้นๆ หาๆ เอาในเว็บไซต์ของร้าน เพื่อดูว่าใครจะมาเล่นดนตรีสนุกๆ ให้ดูบ้าง ก็เป็นวันที่ พี่โก้ Mr.Saxman มาเล่นพอดี (วันนั้นวันจันทร์ครับ) เลยโชคดีได้ดูพี่โก้เล่น แถมมีฝรั่งเป่า Trumpet มาแจมด้วย เป่าดีมากเหมือนกันครับ แล้วก็เลยรู้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงทำอัลบั้มใหม่ของพี่โก้พอดี วันนั้นก็เลยได้ฟังเพลงในอัลบั้มใหม่ไป 3 เพลงเลยครับ

อัลบั้มใหม่ของพี่โก้ ชื่อว่า The Visitor ซึ่งก็คงเน้นเป็นเพลงง่ายๆ ฟังสบายๆ นั่นเองครับ วันนั้นพี่โก้เอามาร้องให้ฟังเพลงนึง คือเพลง Secret Love  ซึ่งตอนนี้ใน Channel ของ Chilling Groove ก็เอาขึ้นไปให้ฟังกันบ้างแล้วครับ แนะนำให้ลองฟังดูครับ



แล้วก็มีเพลงที่เป็นเพลงบรรเลงอีกเพลงนึง ชื่อว่า My Heart ที่ใช้ Alto Saxophone บรรเลงไว้ให้ฟังเพราะๆ อีกเพลงครับ แต่ที่ถูกใจ คงเป็นเพลงเก่าๆ อย่างเพลงความรักเพรียกหา ที่มีเนื้อร้องเริ่มต้นว่า ก่อนเคยพะนอ.... ตามหัว Blog นั่นแล่ะครับ ที่ผมเองก็คุ้นเคยใน version ของเจ๊จุ๋มร้องเอาไว้ เมื่อนานมาแล้วนั่นแล่ะครับ ซึ่งจริงๆแล้ว ตัวผม พี่โก้ หรือ เจ๊จุ๋ม เคยเรียนอยู่ที่ พณิชยการพระนคร ที่เดียวกันครับ แต่แค่คนละสมัยเท่านั้นเอง แล้วก็โชคดีได้เป็นลูกศิษย์ของ อ.วุธ (ผศ. กวินวุธ กลั่นไพฑูรย์) ที่สอนในเรื่องดนตรี และในเรื่องอื่นๆ อีกเพียบครับ

เอาเป็นว่า คืนนั้นที่ไปก็ได้ฟังได้ดูพี่โก้ แบบคุ้มค่าจริงๆ เพราะส่วนใหญ่ ก็จะได้ฟังเพลงแนวที่อยากฟังบ้าง เพราะมีบ้างที่ลูกค้าขอเพลงไทย ในอัลบั้มเก่าๆ ซึ่งเท่าที่ดูพี่โก้เองก็คงอยากร้องเพลงไทยไม่กี่เพลงเท่านั้น เพราะลูกค้าร้านนี้ไม่ได้มีแต่คนไทยนั่นแล่ะครับ แต่โดยรวมก็สนุกครับ โดยเฉพาะ มีแขกรับเชิญคนสุดท้าย สุดยอดนักเปียโนคนนึงของไทยเลย แต่ไม่ได้มาแจมเปียโนนะครับ มาร้องเพลง "คิดถึงพี่หน่อย" ซึ่งงานนี้ พี่โก้ ก็เลยปรับ sound ของ Sax เป็นแบบเพลงลูกทุ่ง ที่เสียงก้องเยอะๆ รวมถึงปรับสไตล์การเป่าด้วยครับ ได้ฟิลลูกทุ่งสุดๆ ก่อนจะจบด้วยเพลงมันๆ อีกเพลงก่อนกลับบ้านนั่นเองครับ

งานนี้ก็คงต้องรอโอกาสที่จะได้ไปอีกครั้ง ซึ่งจริงๆ แล้วคืนนี้ก็ตั้งใจว่าจะไปเหมือนกันครับ แต่บังเอิญทำโน่นทำนี่ จนเลยเวลานั่นเองครับ เพราะคืนนี้ก็อยากไปดู หนึ่งเดียว ในมือเปียโนที่ชื่นชอบมาตลอด พี่หนึ่ง จักรวาล ที่ถ้าโชคดีไปคืนที่พี่เค้ามีอารมณ์สุดๆ รับรองต้องสนุกแน่ๆครับ แต่คงต้องรอไปวันอาทิตย์หน้าแล้วล่ะครับ







วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

Starbucks Tumbler Anniversary 2011 Collection

สองสามวันนี้ ออกนอกบ้านบ่อยมาก แต่ก็ไม่สำคัญเท่ากับ ออกไปแล้ว ก็ใช้เงินเยอะมากตามไปด้วย เลยต้องมาเขียน blog  เพื่อเตือนสติตัวเองซักหน่อย (จะได้ผลรึป่าวนั่นเป็นอีกเรื่องนึง) แถมหลายๆครั้งก็เสียตังแบบไม่ได้ตั้งใจไปเสียเลยด้วยซ้ำ เริ่มต้นจากเมื่อวานนี้ นัดคุยงานกับเสี่ยไมค์ ด้วยความอยากทำโปรเจ็คใหม่ๆ ก็เลยไปนั่งคุยกันแถวๆ อโศก เพราะก่อนหน้าแวะไปงาน Thailand ICT Awards มาแว้บนึง ก็ได้ดูผลงานที่เค้าเอามาประกวดกันนิดหน่อย ปีหน้าถ้ามีไอเดียอะไรเด็ดๆ ก็น่าจะลองทำส่งประกวดดูบ้าง แหะๆๆ ว่ากันต่อเรื่องกินข้าวที่อโศก เลยได้เดินโฉบๆ ไปที่ร้านขายหูฟังในตึก exchange tower ซึ่งเสี่ยไมค์เค้าอยากได้ก็เลยเดินเข้าไปดูด้วย ปรากฏว่าไปเชียร์รุ่นนึงเข้า (ดันเป็นรุ่นที่แพงอีก) เลยได้ลองฟัง ก็เลยอยากได้ด้วยอีกคนไปซะเลย ออกมาจากร้าน เลยได้หูฟังกันมาคนละอัน เป็นของ AKG รุ่น K319 ซึ่งถือว่าเป็นหูฟังระดับเทพอีกตัวนึงเลยครับ
AKG K319

พอเสียตังก็เลยสบายตัว แต่ร้านก็บอกมาว่า อันนี้ ควร burn-in ซัก 150 ชั่วโมง เอาล่ะหว่า อะไรคือ burn หูฟัง ก็ต้องให้พี่กรูช่วยตอบอีกแล้ว ว่ามันก็คล้ายๆ กับ รถใหม่ๆ ที่ต้องมีช่วง burn-in ด้วยการเปิดเพลงทั่วๆไป ให้หลากหลายความถี่ หรือบางคนก็อาจจะหาไฟล์เสียง ที่ใช้สำหรับการ burn หูฟัง หรือลำโพงโดยเฉพาะ ก็ได้ เพราะพวกนี้ ก็จะคล้ายๆกับเสียงคลื่นวิทยุ ที่มีความถี่เสียงหลากหลาย ซึ่งบ้างก็ว่าทำแล้วดี บ้างก็ว่างั้นๆ แต่เห็นว่าถ้าทำกับหูฟังที่จ่ายแพงๆ ไปเนี่ยน่าจะเห็นความแตกต่าง ก็เลยเอามาเปิดทิ้งไว้ที่บ้าน แล้วออกมาหาข้าวกินข้างนอก (อีกแล้ว)

ตามคาดเลยครับ เสียตังอีกแล้วสำหรับการเดินทางวันนี้ แต่ก็แฮปปี้เหมือนเดิม เพราะไปได้แก้ว Starbucks Tumbler ที่เป็นรุ่น Anniversary 2011 ซึ่งเห็นลายแล้วค่อนข้างชอบ แล้วก็รู้ว่า แก้วพวกนี้เห็นแล้วชอบก็ให้รีบๆ ซื้อไปเลย เพราะว่า เคยเห็นแล้วชอบ แต่รอก่อน ผ่านไปแค่วันเดียว กลับไปหาซื้อมันไม่มีแล้ว (ประสบการณ์ตรงเลยครับ)

จริงๆแล้ว ตอนแรกเห็นที่เป็นถ้วย Mug ลายเดียวกันนี้ ก็เห็นแล้วสวยดี แต่บังเอิญวันนี้ไปเห็นที่ ปิ่นเกล้า ซึ่งขี้เกียจหิ้วมาสยาม เพราะมีนัดตอนเย็น ก็เลยไม่หิ้วมา เพราะกะว่า สยามน่าจะมีของเยอะกว่า ซึ่งก็กะมาซื้อเอาที่สยามนั่นแล่ะครับ แบบว่ากำลังจะซื้อ พนักงานบอกว่า จริงๆ มันมีรุ่น Tumbler (แก้วพลาสติกใส่เก็บร้อนเย็น) ด้วยนะคะ ก็เลยไม่ซื้อแล้วไปเดินหาสาขาอื่นๆ ซึ่งสุดท้ายไปได้ที่ สาขา พารากอน ชั้น G เหลืออยู่ 2 ใบ จาก 20 ใบที่เพิ่งเอามาวางได้แค่ 2 วันเองครับ ซึ่งตอนเย็นน้องที่นัดเจอ ก็บอกอยากได้เลยรีบเดินมาซื้อใบสุดท้าย จนได้ 

พอเห็นแบบนี้แล้วก็เลยพูดขำๆ กับคนขายว่า งี้น่าซื้อเอามาปล่อยประมูลในเว็บ แต่แล้วพอค้นหาดูจริงๆ ก็เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสำหรับแก้ว Starbucks สวยๆ เพราะถ้าหาเอาใน ebay หรือตามเว็บขายของ เว็บประมูลของเนีย่ จะเจอเยอะมาก ทั้งที่เป็นแบบ mug หรือแบบ tumbler ก็ตาม เลยมานั่งคิดๆว่า คนที่เห็นเงิน เห็นธุรกิจ อะไรๆ ก็เอามาทำเงินทำทองได้หมดเลยวุ้ย แบบนี้คราวหน้า ถ้าเห็นสวยๆ จะไปลองเหมามาปล่อยประมูลในเว็บดูบ้างครับ อิอิ


วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

Google Street View ประเทศไทย

เมื่อเดือนก่อนได้เห็นข้อมูลผ่านตาแว้บๆ ว่าทาง  Google รับสมัครเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูล Street View อยู่ก็รู้สึกดีใจนะครับ เพราะว่าเวลาเอา Google  Maps ไปโม้ให้คนอื่นดู เวลาโชว์ฟังชั่น Street View ยังต้องอาศัยแผนที่ในอเมริกาอยู่เลยน่ะครับ แบบว่าอะไรที่เด่นๆ บนฝั่ง Android มันยังไม่เยอะเท่า iOS นั่นแล่ะครับ แหะๆๆ (ใช้แอนดรอยด์ ก็ต้องเชียร์กันหน่อย) เพราะถ้าเก็บภาพเสร็จเนี่ย ต่อไปก็โชว์ Street View ในประเทศไทยได้นี่เจ๋งไปเลยครับ

แต่จริงๆ แล้ว มันมีเรื่องให้น่าดีใจมากกว่านั้นครับ เพราะว่า สถานที่สวยๆ งามๆ ในประเทศไทย นั้นมีเยอะมาก และ กรุงเทพฯ​ เอง ก็ติดอันดับเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกเหมือนกันนะครับ ถ้าเกิดบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลาย เกิดอยากมาเที่ยวเมืองไทย มาเที่ยวกรุงเทพฯ แล้วเข้ามาดูด้วย Street View ก็จะทำให้อยากมามากขึ้นนั่นเอง (ยกเว้น จะไปเจอจังหวะรถติดแล้วเกิดกลัวขึ้นมา ฮ่าๆๆ) หรือจริงๆ เราเองในฐานะคนไทย ก็คิดว่า คงมีบางพื้นที่ ที่เราอาจจะยังไม่เคยไป ไม่เคยเหยียบ เราก็เข้าไปดูใน Street View ได้เหมือนกันว่า จะไปตรงนี้มันมีหน้าตายังไง หรือ ค้นหาร้านอาหารชื่อดัง ร้านขนมอร่อยๆ แล้วอยากลองดูรอบๆ ว่าเป็นไง เวลาขับรถไปหรือเดินไปจะได้ไปได้ถูกต้องรวดเร็วเลยนั่นเองครับ (อันนี้จากประสบการณ์ตรงที่ใช้ Google Maps หาร้านขนมกินบ่อยๆ ครับ)


ซึ่งล่าสุด ก็ได้เห็นข่าวการเปิดตัว ของทีมงาน Street View ที่จะตามเก็บภาพบนถนนในประเทศไทย ของเราให้ไปสู่สายตาคนทั้งโลกนั่นเอง ซึ่งงานนี้ก็คงเป็นการท่องเที่ยว นั่นแล่ะครับ ที่มีส่วนได้เต็มๆ ซึ่งก็มาร่วมแถลงข่าวร่วมกันกับ Google ประเทศไทย นั่นเองครับ แบบว่า ใครเห็นรถจำได้ ก็ลองขับตามไปดูนะครับ ถ้าขับแซงได้ ก็จัดไปเลยครับ เพราะว่า รถคุณจะถูกบันทึกอยู่ใน Google Maps แน่นอน อิอิ

เดี๋ยวอีกซักวันสองวันจะลองเปิด Street View ในกรุงเทพฯ ดูซักหน่อยว่าจะมีข้อมูลตรงไหนบ้าง ใครผ่านไปผ่านมาเห็นรถ ก็ถ่ายรูปมาฝากกันด้วยนะครับ :)

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Great Jobs (from 1984 - 2011)

ถ้าพูดถึงข่าวใหญ่ในวงการไอที ในรอบสัปดาห์นี้ ก็คงไม่มีข่าวไหน แรงเท่ากับข่าวการอำลาตำแหน่ง CEO ของ Steve Jobs แน่นอนครับ โดย Jobs กล่าวอำลาเป็นประโยคประมาณว่า "ผมสัญญาเอาไว้ว่า ถ้าถึงเวลาที่ผมจะไม่ได้ทำหน้าที่ CEO ของ Apple แล้ว ผมจะบอกพวกคุณทุกๆคน เพียงแต่เสียดายที่เวลานั้น มันมาถึงแล้ว" แต่แท้ที่จริงแล้ว Steve Jobs นั้นก็ยังคงนั่งเป็นประธานบอร์ดต่อไป โดยผู้ที่มาทำหน้าที่แทนในตำแหน่ง CEO ก็คือ Tim Cook มือขวาที่ Jobs นั้นไว้วางใจมากคนนึงเลยทีเดียว


ถ้ามองย้อนกลับไปในปี 1984 บรรดาสาวกของ Apple (รุ่นโบราณ) ก็คงจะจำโฆษณาเปิดตัว Macintosh ครั้งแรกในช่วงพักครึ่งของการแข่งขันซุเปอร์โบวล์ในปีนั้นได้ดี ซึ่งในปีหลังๆ เราก็ได้เห็นสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี เปิดตัวในช่วงพักครึ่งของซุเปอร์โบวล์กันอย่างเยอะเลยครับ และต้องถือว่าโฆษณาเปิดตัว Macintosh ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งโฆษณาที่หลายๆครั้งจะเห็นคู่แข่งหรือแม้แต่ Apple เองก็หยิบขึ้นมาใช้ทำหนังโฆษณาล้อเลียนกันอีกเพียบครับ
On January 24th,
Apple Computer will introduce
Macintosh.
And you'll see why 1984
won't be like "1984".

ในฐานะสาวกคนนึงที่ใช้เครื่อง Macintosh อยู่ก็ต้องบอกว่าเสียดาย แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังไงวันนี้ก็คงต้องมาถึงอยู่ดีครับ แต่อีกข่าวในช่วงสัปดาห์ก่อน ก็มีอีกข่าวหนึ่ง ที่อาจจะเป็นเหตุผลนึงที่ผมคิดแทน Steve Jobs ว่าถ้าผมเป็น Jobs แล้วข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ทำให้ผมนอนตายตาหลับอย่างแน่นอน เพราะว่า มูลค่าหุ้น (Market Cap) ของ Apple Computer นั้นมีมูลค่าสูงที่สุดของโลก ซึ่งแซงหน้า บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง Exxon Mobile ไปในช่วงสัปดาห์นี้เอง


แต่อีกคนที่ต้องพูดถึงก็คือ Tim Cook ที่ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ CEO แทน Jobs ด้วยมูลค่า หุ้นส่วนในบริษัท Apple Computer เป็นจำนวน 1 ล้านหุ้น โดยในส่วนของหุ้นบริษัทนั้นถือเป็นรางวัลถ้าหากทำงาน ในตำแหน่ง CEO ของ Apple ครบ 10 ปี โดยจะโอนหุ้นให้กับ Tim Cook ครึ่งนึ่ง  (5 แสนหุ้น) ในปี 2016 และโอนส่วนที่เหลือ ในปี 2021 นั่นเอง เรียกว่ารางวัลก้อนนี้ใหญ่จริงๆครับ แต่ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า Tim Cook นั้นจะทำผลงานให้กับ Apple Computer ได้ดีแค่ไหน ซึ่งโดยส่วนตัวก็คงให้เครดิต ทั้ง Tim Cook แล้วก็ Steve Jobs เลยครับ ซึ่ง Tim Cook เองก็ต้องถือว่าเป็นคนเก่ง และเหมาะสมที่สุดที่จะมาแทน Jobs และส่วนเครดิตที่ผมให้กับ Jobs ก็คงเป็นเรื่องของการมองคน ซึ่งคนที่มีวิสัยทัศน์แบบ Jobs ก็คงเลือกคนที่มาแทนที่ในตำแหน่งของเค้าเองนั้น อย่างละเอียดแน่นอน และก็เชื่อว่าการวางตัวนี้คงไม่ได้เพิ่งนึกออกว่าจะให้ Tim Cook มาแทน คงวางตัวกันมานานมากแล้วล่ะครับ ซึ่งเราๆ ก็คงรอดูกันต่อไปว่าจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ออกมาจากบริษัทที่ชื่อว่า Apple Computer กันอีกบ้าง...

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Google I/O on Google Blog (Blogger)


หลากหลายไอเดียในชีวิตผม ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นเวลาอาบน้ำเสมอๆ และความคิดที่จะเขียน Blog ที่เป็นเกี่ยวกับ Internet Marketing ก็เกิดขึ้นในเวลาอาบน้ำเช่นเดียวกันครับ ซึ่งก็รวมไปถึงการเลือกใช้ Free Blog เจ้าไหนด้วยเช่นกันครับ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมเองก็เป็น WordPress User ที่เรียกได้ว่า เป็นแฟนคลับแบบเหนียวแน่นหนึบเลยก็ว่าได้ครับ เพราะในทุกๆเว็บไซต์ที่ใช้ทำงาน Internet Marketing ลง WordPress ไว้ทั้งนั้นเลยครับ แต่ท้ายที่สุด ก็มาจบลงที่ Blogger เนี่ยแล่ะครับ เพราะว่าไหนๆ ก็มีความชื่นชอบเป็นการส่วนตัวกับ Google อยู่แล้ว ก็ใช้ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างของ Google ไปเลยก็ดีครับ

ในไอเดียคร่าวๆ ก็คงใช้พื้นที่ตรงนี้ในการเขียนบล็อกที่เป็นส่วนตัวด้วย และก็เน้นในเรื่องราวข่าวสารอัพเดทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Internet Marketing ด้วยเลย ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีใหม่ๆ สินค้าใหม่ๆ หรือสินค้าที่อยู่ในความสนใจของผมเอง (ฮ่าๆๆ) มาเขียนทิ้งๆ เอาไว้ในนี้แล่ะครับ

ไหนๆ ก็เปิดตัวว่า จะเป็น Blog ที่เขียนถึงความเคลื่อนไหวของ เทคโนโลยีใหม่ และ ความเคลื่อนไหวในวงการ Internet Marketing ก็ขอเขียนเรื่องราวของ Google ซักหน่อยเลยจะดีกว่า เพราะว่าเืมื่อ 2 วันก่อน ก็ได้มีงานเปิดตัว Google ประเทศไทย อย่างเป็นทางการ (เย้.. ในที่สุดก็มี ออฟฟิศ ในประเทศไทยแล้ว) ดีใจไว้ก่อน เพราะว่า ถ้ามีออฟฟิศ และมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนไทยมากขึ้น ก็น่าจะเป็นการดี สำหรับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ และดีต่อคนที่ทำ Internet Marketing ด้วยเช่นกัน เผลอๆ วงการ โฆษณาออนไลน์ ในประเทศไทย อาจจะคึกคักมากขึ้นผิดหูผิดตาเลยก็ได้ครับ

ข่าว Google ประเทศไทย จริงๆ แล้วก็ได้ยินมาหลายสัปดาห์ละเหมือนกันครับ ที่พูดถึง คุณอริยะ พนมยงค์ ที่เข้ามาเป็นหัวหน้าฝ่ายธุรกิจกูเกิ้ลประเทศไทย ซึ่งมีประวัติการทำงานในวงการร่วมสิบปีทีเดียว ซึ่งก่อนหน้าเราคงคุ้นเคยแค่เพียงคุณ พรทิพย์ กองชุน หัวหน้าฝ่ายการตลาดกูเกิ้ลประเทศไทย ที่นำร่องการทำธุรกิจโฆษณาในประเทศไทยมา 5 ปี ซึ่งการเปิดตัวทีมงาน การรับสมัครพนักงานเพิ่ม และการเปิดออฟฟิศในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ โดยความเห็นส่วนตัว คิดว่ายังไงแล้ว ก็น่าจะมีประโยชน์ให้กับเราๆ ไม่ว่าจะเป็นในมุมของผู้ใช้งาน Search Engine และ ในมุมของคนทำ  Internet Marketing นั่นเองครับ

และแถมท้ายอีกนิดก็คงเป็นเรื่องของจำนวนผู้ใช้งาน Search Engine ในประเทศไทย ที่ส่วนแบ่งการตลาดของ Google นั้น สูงเกิน 99% เลยทีเดียว เรียกได้ว่าสูงที่สุดในโลกเลยก็ว่างั้นแล่ะครับ ตัวเลขนี้คงไม่ค่อยถูกใจสำหรับ Yahoo และ Bing ซักเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ ผมเองก็เป็น 1 ใน 99% นั่นแล่ะครับ

ถ้าการเปิดตัวออฟฟิศ Google ในประเทศไทยครั้งนี้ เหมือนเป็นอีกก้าวนึงของ Google ในประเทศไทย ผมก็คงขอร่วมก้าวตามไปด้วยคนละกันครับ